“....Safety Professional...”

เผยแพร่เมื่อ:  01/04/2563....,

เขียนโดย นายอนุลักษณ์ ถนอมสิทธิกุล, Division Manager...,

 

“..ทำงาน Safety อย่างไร ให้ประสบความสำเร็จ ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยาก หากเรามีกลยุทธ์ ที่ดีและตรรกที่ถูกต้อง ตามสิ่ง ที่พวกเราได้ร่ำเรียนเรียนมา มันสามารถต่อยอดได้ หากเรารู้จักโอกาสที่จะนำไปใช้อย่างทันเหตุการณ์และช่วงเวลาที่เหมาะสม.....”

“..การทำงาน Safety แบบ Professional อย่างที่กล่าว ว่าง่ายก็ง่าย ว่ายากก็ยาก ผมทำงานด้านความปลอดภัยมา 30 ปี เคยได้รับรางวัล เจ้าหน้าที่ความปลอดภัย ระดับประเทศ มาถึง สองปี เป็นคนเดียวในประเทศไทยเท่าที่ทราบข้อมูล   ถ้าจะทำงาน  Safety ให้ประสบความสำเร็จ แบบมืออาชีพ หรือ Safety Professional...ต้องมีอะไรบ้าง ควรจะต้องรู้เรื่องอะไรบ้าง 

  1. เริ่มต้นจากเราต้องเป็น "ครู" ครับ ต้องสอนเป็น ถ้าเราสอนไม่เป็น จะไปต่อยากครับ
  2. ต้องเป็น "หมอ" แต่ความรู้ไม่ลึกเท่าหมอ แต่เข้าใจในสิ่งที่เราเรียน  Anatomy, Physiology สามารถไปต่อยอดเวลาที่เราสอน เวลาที่เราสอบสวนอุบัติเหตุได้ ตรงนี้ต้องรู้จริง รวมถึง First Degree , Second Degree รวมถึง Third Degree เป็นต้น
  3. ต้องเป็น "นักวิทยาศาสตร์ Scientist" เพราะคุณจะต้องเข้าใจ Chemical เช่น Exothermic or Endothermic......สารเคมีเวลาเกิดปฎิกิริยาผลกระทบต่อร่างกายจะเป็นอย่างไร  จะมีความรุนแรงอย่างไร สารตัวไหน เป็น In compostableกันเช่น ....กรดกับน้ำ หรือ...สารออกซิไดซ์ซิ่งเอเจนท์เป็นต้น 
  4. ต้องเป็น "นักกฏหมาย Lawyer" เพราะนายจ้างโดยปกติแล้วจะกลับผิดกฏหมาย ดังนั้นถ้าเราแม่นเรื่องกฎหมาย นายจ้างจะเชื่อเรา เวลาเราพูดจะมีน้ำหนัก
  5. ต้องเป็น "นักจิตวิทยา Phycology" เข้าในในธรรมชาติของคน คนมักต่อต้าน ไม่เห็นด้วย คุณจะมีวิธีการอย่างไร ในการจัดการแก้ไขปัญหา 
  6. ข้อนี้สำคัญมากคือ คุณต้องมี "กลยุทธ์ Strategy" จะใช้กลยุทธ์อย่างไรในสิ่งที่คุณได้ร่ำเรียนมาทั้งหมด  

              Create Trust เรื่องนี้ คุณต้องสร้างให้ทุกคนยอมรับคุณ ทำอย่างไรบ้าง เช่น คุณต้องรู้จริง คุณตั้งใจจริง คุณมีความปรารถนาดีจริงๆไม่ได้แกล้ง เป็นต้น

              Identify Key Person and Engagement หาให้เจอในองค์ที่คุณทำงาน เป็นกุญแจสำคัญของการผลักดันงานของคุณเลย บางครั้งไม่ใช่หัวหน้า บางครั้งเป็น หัวหน้างาน หรือผู้บริหารท่านหนึ่งเป็นต้น

              PDCA ต้องทำไปเรื่อยๆ อย่าหยุดครับหากหยุดแล้วไม่ทำต่อ จะเริ่มยากกว่าในตอนแรกครับอีกครับ

              Opportunity and Risk มองหาให้เจอครับ อะไรเป็นโอกาส อะไรที่จะทำให้ไม่สำเร็จ เหมือนการรบรู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง

              SWOT Analysis ข้อนี้ก่อนจะทำเรื่องอะไร โครงการอะไร ต้องวิเคราะห์โดยใช้เครื่องมือในการบริหาร หาไว้ก่อน หากเราเจอกับสิ่งนั้นจะได้เผชิญกับสิ่งนั้นอยากไม่ตกใจ พร้อมกันนั่นหากมีมุมบวก เราจะได้ทำให้สิ่งนั้นเป็นบวกหรือคูณสิ่งนั้น ให้มากขึ้นเป็นหลายเท่าให้มากขึ้น เสริมจุดแข็ง ลดจุดอ่อน” หวังว่า บทความนี้คงเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยครับ แล้วสำหรับผม มีการเชื่อมโยงเรื่องธรรมมะกับความปลอดภัย ด้วยครับ แยกกันไม่ออกจริง ท่านใด

Visitors: 417,587