ระยะ (ไม่รู้จักคิด)

เผยแพร่เมื่อ: 10/08/2563....,
เขียนโดย คุณษมน รจนาพัฒน์

ระยะ (ไม่รู้จักคิด)

          ผมเคยแนะนำเพื่อนฝูงไว้ว่า การขับรถในประเทศนี้ ประเทศที่มีอุบัติเหตุทางถนนเป็นอันดับสองของโลก ประเทศที่ทำสถิติอุบัติเหตุทางถนนอันดับหนึ่งในเอเชีย นอกจากจะต้องพกพาใบอนุญาตขับขี่แล้ว สิ่งที่ต้องมีขาดไม่ได้เลยก็คือ บัตรโรงพยาบาลบ้าสักใบ เอาให้ชัวร์ก็สักสองสามใบ ซองยา ที่มียาแก้บ้าเหลืออยู่สักเม็ดสองเม็ด เอะอะจวนตัว ควบเฟอรารี่ ควบพอร์ช ควบนิสสัน ควบฟอร์จูเนอร์ไปเหยียบใครตายเข้า ก็ต้องทำท่าชักแง่กๆๆๆๆ เอาให้เนียนก็แบบน้ำลายฟูมปาก ขี้เยี่ยวแตกราดกางเกง แบบนี้รอด แต่ล่าสุดที่ไปได้ยินมาจากเซียนหวยแถวบ้าน เดี๋ยวนี้ของขลังที่ทุกคนต้องหามาติดรถก็คือ เครื่องดื่มยี่ห้อควายแดง (ไม่รู้จริงๆว่า ควายป่า วัวป่า กระทิงเปลี่ยว มันเป็นตัวเดียวกันรึเปล่า) ผมชอบอ่านเรื่องเพชรพระอุมา เลยเขียนคดีหมาดำไว้ด้วย คลิกอ่านต่อได้ถ้าอยากหาเรื่อง

          สูตรคำนวณความเร็ว (Velocity) สมัยที่เรียนฟิสิกส์ ที่ไหนๆ ก็คือ V = S คือระยะทางที่วัตถุนั้นเคลื่อนที่ไป หารด้วย t คือเวลาที่ใช้ไปในการเคลื่อนที่ V = S/t

          ข่าวครึกโครมเมื่อสองสามวัน ว่าคดีรถเฟอรรารี่ชนแล้วลากตำรวจไปสองร้อยเมตร จากนั้นขับหนีเข้าบ้าน จากนั้น...ผ่านไปแปดปี อัยการสั่งไม่ฟ้อง และหนึ่งในหลักฐานใหม่คือ มีท่านผู้เชี่ยวชาญ สาขาอะไรสักอย่าง ตามข่าวว่าเป็นหนึ่งเดียวในประเทศ ทำการคำนวณใหม่ พบว่ารถเฟอรารี่คันนั้น ขับด้วยความเร็วต่ำกว่า 80 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง ซึ่งไม่ถือเป็นการขับรถเกินความเร็วที่กฏหมายกำหนด โอว!!! พระเจ้า !!!! อีมาสด้าแก่ๆของผมเนี่ย แตะนิดแตะหน่อยก็ขึ้นร้อย ร้อยสิบร้อยยี่แล้ว นี่โดนใบสั่งไปสี่ใบแล้วครับ 

          นี่ยังไม่รวมข้อกล่าวหา ขับรถในขณะเมาสุรา หรือของเมาอย่างอื่น ตามมาตร 9 พรบ. จราจรทางบก 2562 ด้วยเหตุผลพิสดารว่าตอนขับไม่ได้เมา อาจจะเมาหลังขับ แหมๆๆๆๆ ไหนผลตรวจเลือดพบสารอนุมูลโคเคน ป๊าด คำชี้แจงว่าน่าจะเกิดจากยารักษาฟัน

          ตายห่าละซี!! ยาสีฟันสูตรโบราณที่ใช้อยู่อาจจะมีฝิ่น กระท่อมเข้าสูตร เอาละเว้ย!!! ปล่อยให้เขาเถียงกันไป ใครแพ้ก็หน้าแหกไปเอง งานนี้ ทั้งตำรวจ อัยการ กระเตงกันไป ตั้งคณะทำงานมาไม่รู้กี่ชุด รอดูว่าจะลงเอยยังไง

          การที่รถสักคันวิ่งไปแล้วจะหยุดทันหรือไม่ทัน ก่อนที่จะเกิดการเฉี่ยวชน มันก็มีสูตรคำนวน
เปลี่ยนโหมดเป็นซีเรียสแล้วนะครับ ทำหน้าซีเรียสเหมือนนายตำรวจที่ออกมาแถลงข่าวว่า เอ่อ ผมไม่ค่อยมีความรู้ด้านกฏหมาย โธ่ ไอ้กระทิง !!สูตรนี้คือ

     มีวิธีคำนวนหยาบๆ ซึ่งผมไม่แนะนำ เพราะเดี๋ยวจะหาว่าใช้ไม่ได้

     ระยะหยุดS-(Stopping Distance) = ระยะคิดและตอบสนอง (Perception-Reaction Distance) + ระยะเบรก (Braking Distance)

     สูตรคำนวณของ ASSHTO - American Association of State Highway and Transportation Official

     S = (0.278 *t *V)+(V)2 ÷(V)2÷(254 *(f+G))

     ไปอ่านข้างล่างก่อนแล้วค่อยมาดูการแทนค่า

     S = (0.278 * 0.75 *79)+(79)2 ÷(79)2÷(254 *(0.7+30))

     S= 16.47 +0.8 = 17.2703334 เมตร

          เอาคดีเฟอรรารี่นี่ก็แล้วกัน  คดีนี้ชนกระจาย ตำรวจ อัยการ นายก สอวอ สอนอชอ สอ สอ คอ รอ มอเทคโน ลอ กอ บอ  กระจายเกลื่อน ให้ได้อายกันไปถ้วนหน้า ชนยับเยิน ชนกระเด็นกระดอน ชนจนหน้ารถยุบเป็นรูปท้ายมอเตอร์ไซค์ กระจกหน้ายุบ แบบนี้ เซียนอย่างผมบอกได้เลย

          ระยะหยุด (Stopping Distance) ไม่พอ  ผมไปค้นมาว่ารถสูตรหนึ่ง แบบซีอิ้วขวดเขียวเนี่ย รถอะไร มีระยะหยุดเจ๋งที่สุด เฟอรารี่ 488 GTB มีระยะหยุดที่ผ่านการทดสอบในสนามอยู่ที่ 39.6 เมตร เมื่อรถคันนั้นวิ่งด้วยความเร็ว 70 ไมล์ต่อชั่วโมง แปลงหน่วยเป็นกิโลเมตรก็อยู่ที่ 112.654 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง  ถือว่าเป็นระยะหยุดชนิดสั่งได้ สมราคาจริงๆ ถ้าเป็นอีแก่ของผม ความเร็วขนาดนั้น ใครมายืนขวาง ในระยะ 39 เมตร อย่างตำรวจจราจร มียืนโบกกระทันหัน รับประกันได้ กระจาย!!!แบบว่า พอลงจากรถไปจะเอาใบสั่ง อ้าว จ่าหายไปไหนว๊ะ เห็นแว๊บๆ

          ถ้าค่ำคืนนั้น จ่าเขาขับรถอยู่ไกลๆ และน้องเขาขับมาช้าๆ อย่างที่กูรูผู้นั้นเขาคำนวณมา ว่าน้องเขาขับมาแค่V=79 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และคืนนั้น น้องเขาตาใสแจ๋ว ไม่ง่วง ไม่คึก ไม่ดีด ไม่ตัดสินใจช้ากว่ามนุษย์ขี้เหม็นทั่วไป เวลาเห็นอะไรตัดหน้า สมองสั่งตีน ตีนกระทืบเบรก ระยะนี้คนที่ประสาทเฉียบคมประมาณ 0.75 วินาที คนทั่วไปราวๆ t= 1 วินาที หลังจากเหยียบเบรก ระบบเบรกทำงาน ห้ามล้อกึก รถจะยังไถลไปต่อได้อีก ขึ้นกับความเร็วรถก่อนเบรก ขึ้นกับสภาพยาง แรงเสียดทานกับถนน สถาพถนนแห้งหรือเปียก เคสนี้ถนนแห้งแกร่กและขึ้นกับสภาพถนนว่าลาดเอียงหรือไม่ รวมๆแล้วรถจะพุ่งไปอีกระยะหนึ่งก่อนหยุดสนิท

          กรณีนี้ ความเร็วรถV = ประมาณ 79 กิโลเมตรต่อชั่วโมงตามที่กูรูเขาคำนวณและตามที่อัยการยกคำสั่งไม่ฟ้อง ถนนแห้งรึเปล่า เหตุเกิดเวลาตีห้า กทม.อาจจะขยันรถน้ำต้นไม้มั้ง เอาๆๆๆ ถนนเป็นยางมะตอย ค่าความเสียดทานคงประมาณ 0.7ถ้าจะช่วยผู้ต้องหาก็เอาใส่ไปน้อยๆ ถนนไม่ลาดเอียง หรือถ้าจะช่วยๆกันก็ใส่ไป 30 องศา

          จากที่ได้คำนวณมาตามสูตรของแอชโต (ASSHTO) แปลความโดยแอชโชล (ชื่อเหมือนลูกครึ่งเกาหลีเหนือกับอเมริกัน) ก็แปลได้ว่า ถ้าน้องเค้า (เดี๋ยวนี้ตัวอะไรๆพอขึ้นเป็นข่าว ไม่ว่าจะเป็นพะยูน หมาขี้เรื้อน หอยทาก คนในโลกออนไลน์ก็จะเรียกว่าน้องเก๊า) ขับรถด้วยความเร็วแค่ 79 กิโลเมตรต่อชั่งโมง บนนถนนสุขุมวิท ถนนแห้งแกรก รถของน้องเก๊า ยางใหม่เอี่ยม ถนนตรงนั้นมีความลาดเอียงตามสำนวนของจ่าฉุนที่ไปดูที่เกิดเหตุ หลังจากห่อศพเพื่อนของตัวเองเสร็จก็ลงบันทึกไปว่า ความลาดเอียง 30 องศา แหมกะจะลงเยอะกว่านี้ก็อาย ) สรุปแบบเมาๆเลยละกัน

          รถคันนี้จะหยุดได้ในระยะ 17.2703334 เมตร ก่อนการชน พูดง่ายๆคือ ยังไงก็ไม่ชน ถ้าจ่าเขาไม่คิดสั้น ไม่จงใจขับตัดหน้าน้องเก๊า ยังไงน้องก็ต้องเบรกทัน สำนวนที่วิเคราะห์โดย มิสเตอร์แอสโชล์ มันน่าจะไม่ฟ้องให้น้องเก๊าตกใจหนีไปอยู่เมืองนอกเสียตั้งนาน และที่สำคัญ คนที่ต้องเอาตังค์ 300 ล้านไปจ่าย น่าจะเป็นพี่จ่าเขานะแหละ

          เพราะฉะนั้น ยกฟ้องไปเหอะ ถ้าไม่อายกันมั่ง 
          อยากจะฝากไว้ว่า รู้จักระยะหยุด ต้องหัดคิด คิดเป็นแล้วตัดสินใจเบรกซะ อย่าลากไปเรื่อยๆ มันจะตายกันหมดเลยนะหมู่

 

Visitors: 417,584