บทที่ 1 กฎความปลอดภัย

เผยแพร่เมื่อ:  01/07/2564....,
เขียนโดย คุณวีระ ซื่อสุวรรณ
               ที่ปรึกษาและวิทยากรอิสระ
...,

 

นิยายชุด

เรื่อง ขอบคุณร่มของเรา Thank you for being our UMBERLLA

บทนำ
          ร่ม อุปกรณ์เชย ๆที่ใช้ป้องกันหยดน้ำฝน ใช้เมื่อยามฝนตกกระหน่ำ ใช้ป้องกันแสงแดดยามร้อนแรงแสบผิว ปีกร่มจึงต้องกว้างใหญ่พอ น้ำหนักต้องไม่มากมาย พอนำติดตัวไปได้สะดวก
          แต่หลายคนยืนยันไม่พกร่มติดตัว เพราะคิดว่ามันไม่มึความจำเป็น จะมาสำนึกอีกครั้ง ก็ตอนที่โดนพายุฝนที่ตกหนักไม่หยุด ทำให้เปียกปอนทั้งตัว หากหาที่หลบไม่ได้ นั่นก็สายไปเสียแล้ว การมองว่าร่มเป็นตัวภาระ ไม่สะดวกจึงไม่นำไปด้วย เพราะคิดไปเองว่าโอกาสเกิดฝนตกน้อย ไม่คุ้มค่าแบกร่มไปด้วย เปรียบเสือนกับความปลอดภัย ที่ยังถูกมองเห็นว่าเป็นภาระ

          นิยายคิดบวกจบในตอน เป็นเรื่องชีวิตของนายช่างจบใหม่ ประสบปัญหาในการทำงานตั้งแต่วันแรก หลายครั้งต้องถูกบังคับให้เขาต้องตัดสินใจ ระหว่างความถูกต้องกับความถูกใจ ระหว่าง การผลิตกับความปลอดภัย นำเสนอวิธีการค้นคิด ค้นหาทางออกหลากหลายทาง จากเพื่อพนักงาน จากเจ้านาย โดยเฉพาะกับเรื่อง การทำงานผลิต ที่ต้องเกี่ยวข้องกับ คุณภาพ ความปลอดภัย ขวัญกำลังใจ และความก้าวหน้าในงานอาชีพ ที่ต้องได้รับการยอมรับ

          ขอขอบคุณ “ร่ม” ที่ยังอดทน ด้วยความหวังดี พร้อมเสมอในการปกป้องคนให้พ้นภัย

ประวัติผู้แต่ง
          
เคยทำงานประจำเป็นผู้จัดการความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม มากกว่า 14 ปี และยังเป็นวิทยากร ที่ปรึกษาอิสระด้านความปลอดภัย BBS มาถึง 16 ปี

 

 

บทที่ 1 กฎความปลอดภัย

          เริ่มต้นจาก "ทิน" เป็นวิศวกรที่เพิ่งจบมาจากรั้วมหาลัยมามาด ๆ เขาสามารถสอบผ่านเข้ามาทำงานในโรงงานชั้นนำได้ อย่างที่ตั้งใจไว้ และถูกส่งมาประจำทำงานที่โรงงานแห่งหนึ่ง ในจังหวัดระยอง ด้วยรายได้ ค่าที่พัก ช่างตรงใจเหลือเกิน
          
วันแรกของการเข้ามาทำงาน ฝ่ายบุคคลแจ้งว่า เขาต้องเข้ารับการอบรมความปลอดภัย โดยเจ้าหน้าที่ความปลอดภัย หรือ จป. ซึ่งเขาไม่รู้ว่าเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยนั้น สำคัญอย่างไร และมีหน้าที่อะไร ใช้เวลา 3 ชั่วโมง
          
ทิน ต้องอดทนฟังเรื่องของความปลอดภัยในโรงงาน มีการพูดถึงนโยบายและกฎความปลอดภัย ทั้ง ๆ ที่เขาทราบว่า โรงงานระดับนี้ ต้องปลอดภัยอยู่แล้ว โรงงานลงทุนหลายพันล้านบาท ต้องออกแบบมาอย่างดี ทันสมัยสุด ๆ
          
จป. พูดถึงอันตรายและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ในโรงงานแห่งนี้ ทนได้สักพักหนึ่ง มันน่าเบื่อจริง ๆ เพราะ สิ่งที่อยากรู้ว่าคือเข้ามาทำงาน เป็นนายช่าง ต้องรับผิดชอบใดบ้างมากกว่า เรื่องของความปลอดภัย อบรมเสร็จแล้ว ทิน ก็ไปพบกับผู้บังคับบัญชา ซึ่งเป็นผู้จัดการแผนกผลิต ท่านกล่าวต้อนรับด้วยมิตรไมตรีและเพิ่งทราบว่าท่านผู้จัดการคนนี้ ก็จบสถาบันเดียวกันกับทิน และเป็นกรรมการท่านหนึ่งที่สอบสัมภาษณ์ ทำให้รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาก

          หลายวันต่อมา เขาทำงานในหน้าที่วิศวกรฝ่ายผลิต เขาค่อย ๆ พบว่ากฎความปลอดภัยทั้งหลายที่ทราบมาจากวันที่ปฐมนิเทศน์นั้น พนักงานส่วนหนึ่ง ทำบ้างไม่ทำบ้าง จนเขาชินตา เลิกสังเกต แม้แต่ท่านผู้จัดการเองก็ปฏิบัติบ้างไม่ไปบ้างเช่นกัน คล้ายกับว่ามันเป็นวัฒนธรรมของโรงงาน
          
และแล้ววันหนึ่งก็เกิดเรื่องขึ้นมาจริงๆ พนักงานถูกรถยกเฉี่ยวชน เนื่องจาก เผลอเดินออกไปนอกเส้นทาง walk-way ที่กำหนดไว้ ด้วยเส้นสีเหลืองสองข้าง ผลก็คือ คนเจ็บต้องไปโรงพยาบาล แต่ก็โชคดีสามารถกลับมาทำงานได้ในวันรุ่งขึ้น นี่เป็นผลจากความประมาทของคนนั้นเอง มีการพูดกันไปบ้าง ฝากบอกต่อ ๆกันว่า ต่อไปต้องระวังนะ อย่าประมาท จบเรื่องนี้ไป ถูกลืมเลือนอย่างง่ายดาย วันนั้น ลูกน้องเขามาตาม บอกว่านายช่างครับ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว เขารีบไปที่เกิดเหตุ พบผู้รับเหมาประสบอุบัติเหตุ แขนขวาถูกดึงหรือตัดขาดออกไปทั้งแขน เลือดสดๆ ไหลนองพื้น กลิ่นคาวเลือดแตะจมูก ชายผู้รับเหมาคนนั้นหมดสติ ทิน ตกตะลึงทำอะไรไม่ถูก เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยและอีกหลายคน มาช่วยนำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล เขาหัวหมุนคล้ายจะเป็นลม เพราะไม่เคยเห็นเลือดจำนวนมากแบบนี้มาก่อน ทั้งสลดใจ ตกใจ เย็นกลับบ้านพักนอนไม่หลับ คิดจะลาออก เพราะมันเกิดในพื้นที่รับผิดชอบของเขา ซึ่งรับไม่ได้
          
ในการสอบสวนอุบัติเหตุ เขาตั้งได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการด้วย ในฐานะเจ้าของพื้นที่ ไม่สามารถหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบได้
          
ผลการสอบสวน จึงทราบว่า กลุ่มผู้รับเหมารายนี้เขามาทำงาน โดยละเมิดกฎความปลอดภัย แทบจะทุกข้อ ตั้งแต่ไม่ผ่านการอบรมความปลอดภัย อ้างเป็นงานด่วน ขาดขั้นตอนการขออนุญาตทำงาน การใช้อุปกรณ์ผิดประเภท ไม่เตรียมพร้อม ไม่มีแผนหรือขั้นตอนการทำงานที่แน่ชัด ไม่ประชุมประเมินความเสี่ยงล่วงหน้าก่อนทำงาน อุปกรณ์ความปลอดภัยไม่ใช้ รวมทั้งผู้ควบคุมงานก็ไม่มี
          
คณะกรรมการช่วยกันสรุป ออกรายงานได้ก็ถือว่าเสร็จแล้ว ครั้งหน้าต้องระวังให้มากกว่านี้ ไม่ประมาทอีกต่อไป คณะกรรมการสอบสวนรู้สึกว่า มันก็ผ่านไป อีกครั้งหนึ่ง ก็จบแล้ว แต่ทิน มาทราบภายหลังว่า ผู้รับเหมาคนนั้นเสียชีวิต และผู้จัดการมอบหมายให้ เขานำเงินไปให้กับครอบครัวในงานศพ คราวนี้เขาเริ่มตระหนักแล้วว่า มันไม่น่าเกิดขึ้นกับใครเลย เขาเห็นภรรยาและลูกๆ รับเงินจากมือเขาด้วยน้ำตานองหน้า ทินตั้งใจว่าต่อไปนี้จะไม่ยอมให้ ใครละเมิดกฎความปลอดภัยให้เขาเห็นอีก และต้องเริ่มจากตัวเขาก่อน

 

เล่าเรื่องโดย วีระ ตัวละครเป็นเรื่องสมมติ
          “หากต้องลาออกเพราะอุบัติเหตุ มันก็ไม่คุ้มค่ากับหนึ่งชีวิตที่ต้องสูญเสียไป เพื่อเป็นบทเรียนราคาแพง”
          
“การละเมิดกฎความปลอดภัย การทำลัดขั้นตอน เป็นสิ่งยอมรับไม่ได้”
          
“ผู้บังคับบัญชา ต้องเป็นผู้นำ ให้ทุกคนเป็นตัวอย่างที่ดีด้านความปลอภัย”
          
คนที่ไม่ทำตามกฎความปลอดภัยก็ไม่มีใครว่าอะไร คนที่ทำประจำก็ไม่มีใครพูดอะไร ดังนั้นเรื่องของกฎความปลอดภัย มันกลายเป็นเรื่องค่อนข้างจะไม่สำคัญ ไม่ต้องใส่ใจ 
          
เมื่อพ้นการทดลองงานแล้ว ก็รู้สึกว่าตัวเขาทำงานให้บริษัทและโรงงานเต็มที่แล้ว ในทุก ๆวัน ก็ยังพบว่าพนักงานปฏิบัติบ้างไม่ปฏิบัติบ้างสม่ำเสมอ ดูเสมือนเพิ่มจำนวนมากขี้น

Visitors: 367,546